ตัวเด็กหญิงไข่เจียวเองเคยฝันไว้ว่าอยากจะเป็นจิตแพทย์ค่ะ
แต่ก็นะ ด้วยความสามารถที่มีดูแล้วคงจะต้องกินแห้วกันไปอีกนาน เลยตัดใจค่ะ (ลำบากใจม๊ากกก T^T)
ก็ด้วยการที่อยากเป็นจิตแพทย์ตอนนั้นก็เลยชอบเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์และจิตใจของผู้คนมาก
เลยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องจิตบ่อยๆ วันนี้ก็มีสาระดีๆ มาฝากกัน ^^
ติดตามได้เลยจ้า
VVV
VV
V
ความเครียด
ความเครียดเป็นอารมณ์หรือความรู้สึกโกรธ เสียใจ กดดัน ไม่สบายใจ สับสน คับข้องใจ ที่เกิดขึ้นมาเพราะมีปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้ ความเครียดถ้าเกิดขึ้นมาก จะมีผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต แต่ถ้าเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้คนเราเอาชนะอุปสรรคและสิ่งท้าทายได้
ความเครียดเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ดังนี้
๑) สาเหตุจากทางร่างกาย เช่น ความเจ็บป่วย ความพิการ การเจริญเติบโตที่ผิดปกติ ความอ้วน – ผอม อันเนื่องจากกรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงตามพัฒนาการ เช่น วัยรุ่น วัยสูงอายุ
๒) สาเหตุจากทางจิตใจ เช่น ความกลัว ความขัดแย้งกับเพื่อน ความต้องการการยอมรับ ความหวาดระแวง ความไม่กล้าตัดสินใจ ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ความอาย เป็นต้น
๓) สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม เช่น การเรียน การสอบ การเปลี่ยนห้องเรียนการปฎิบัติตามกฏ การสูญเสียคนใกล้ตัว
ผลกระทบที่เกิดจากความเครียด
เมือเกิดจากความเครียด คนเราก็จะแสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โกรธ อาละวาด ซึมเศร้า เป็นต้น ซึ่งการแสดงออกเหล่านี้ จะส่งผลกระทบ ดังนี้
๑) ผลกระทบต่อตนเองเกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจ
(๑) ทางด้านร่างกาย เมื่อเกิดความเครียดจะแสดงออกทางด้านร่างกาย เช่น ปวดศีรษะข้างเดียวบ่อย ๆ หายใจไม่ออก หายใจถี่ ๆ เหนี่อยง่ายนอนไม่หลับ ขับถ่ายไม่สะดวก ปวดท้อง เบื่ออาหาร รู้สึกหรือเจ็บที่หน้าอกเป็นต้น
(๒) ทางด้านจิตใจ เมื่อเกิดความเครียดจะทำให้เกิดความหงุดหงิดไม่มีความอดทน ซึมเศร้า ไม่มีสมาธิในการเรียนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ รู้สึกขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดพลาด และอาจทำร้ายตนเองได้
(๓) ผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง เมื่อเราเกิดความเครียด จะทำให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับเรา เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน เป็นต้น รู้สึกห่วงใยและวิตกกังวลไปด้วย เพราะบุคคลเหล่านี้ต่างก็รักและเป็นห่วงเรา
การป้องกันและแก้ไขเมื่อมีความเครียด
ผู้ที่มีอารมณ์เครียดจะเกิดผลเสียต่อตนเองทั้งด้านร่างกายแจะด้านจิตใจรวมทั้งเกิดผลกระทบต่อบุคคลรอบข้างด้วย ดังนั้น เราจึงควรรู้วิธีป้องกันและแก้ไขความเครียด ดังนี้
๑) การป้องกันความเครียด ทำได้โดยดูแลตนเองและปฎิบัติ ดังนี้
(๑) รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ – ๓ วัน
(๒) ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอและไม่คิดในแง่ร้ายทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
(๓) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนหลับจะทำให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนเต็มที่
(๔) ยอมรับตนเองและยอมรับผู้อื่น เพราะจะทำให้เราเข้าใจความต้องการของตนเอง และปฎิบัติตนได้ถูกต้อง ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าใจผู้อื่นได้และสามารถสร้างและรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้
(๕) ฝึกตนเองให้เป็นผู้ที่รับรู้ความรู้สึกที่แตกต่าง เพื่อให้รู้สึกเห็นใจ รู้จักให้อภัย และช่วยเหลือผู้อื่น
(๖) ฝึกตนเองให้เป็นผู้ที่มีการตอบสนองต่อคำติชมอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น วิตกกังวล หวาดกลัว เสียใจ เมื่อได้รับฟังคำติชม จากผู้อื่น
๒) การแก้ไขความเครียด เมื่อเรารู้ว่าเกิดความเครียดขึ้น เราสามารถหาทางแก้ไขได้ ดังนี้
(๑) พูดคุยระบายความรู้สึก เช่น เล่าเรื่องหรือขอคำปรึกษาจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู เพื่อนสนิทที่รับฟังปัญหาเราได้ การระบายความทุกข์หรือปัญหาออกมา จะทำให้เราไม่อึดอัด รู้สึกผ่อนคลาย และการที่มีผู้ให้คำแนะนำหรือข้อคิดอาจจะทำให้เราแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นด้วย
(๒) สูดดมหายใจเข้าออกช้า ๆ หรือนับเลขในใจช้า ๆ ไปเรื่อยๆ
(๓) ทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้เราไม่หมกหมุ่นกับปัญหารวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อตนเอง เช่น เล่นกีฬา เล่นดนตรี อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ ฟังเพลง ทำงานอดิเรก ฝึกสมาธิ เป็นต้น
(๔) ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่น ทำความสะอาดโรงเรียน หรือสถานที่สำคัญในชุมชน
credited : http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=2020
นอกจากที่ว่ากันมาแล้วข้างต้นนี้ เด็กหญิงไข่เจียวได้อ่านงานวิจัยมาแล้วรู้ว่า
อาการเครียดบ่อยๆ จะนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้า และระยะร้ายแรงที่สุดของโรคซึมเศร้าคือการคิดฆ่าตัวตาย
รู้อย่างงี้แล้วเรามาพยายามขจัดความเครียดกันเถอะนะคะ ^^